วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ม่านรักที่บดบังดวงตา

ช่วงนี้พอว่างจากการเดินทางขึ้นมา ก็ได้ดูหนังเยอะแยะไปหมด รู้มั้ยจ๊ะ ว่าร้านขายหนังในกรุงเทพฯเดี๋ยวนี้เอาหนังต่างประเทศแปลกๆ มาลดราคากระหน่ำ ทำให้เวลาไปเดินเล่นในห้างที ก็หอบซื้อมาเก็บสะสมไว้ได้เยอะแยะ พอมีเวลาบ้าง ก็เอามาเปิดดูเสียทีหนึ่ง

เรื่องที่ดูแล้วชอบอีกเรื่องหนึ่งก็คือ The White Masai หรือเขียนเป็นภาษาเยอรมันว่า Die Weisse Massai เรื่องนี้เขาอ้างอิงมาจากชีวิตจริงของผู้หญิงชาวสวิสคนหนึ่งด้วยนะ ที่เขียนเป็นหนังสือออกมา (แต่หนังสือไม่ดังเท่าหนัง สงสัยเขียนไม่สนุก)

เรื่องของเรื่องก็คือ ผู้หญิงคนนี้เดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศเคนยากับแฟนหนุ่มชาวสวิส ระหว่างท่องเที่ยวอยู่ ก็ดันไปเกิดรักแรกพบกับนักรบหนุ่มจากเผ่ามาไซ เป็นรักแรกพบหลังจากสบตากันปิ๊งเดียวบนดาดฟ้าเรือ เต้นรำด้วยกันอีกนิดหน่อย ในที่สุดก็ตัดสินใจทิ้งให้แฟนกลับประเทศไปคนเดียว

ส่วนตัวเธอน่ะหรือ อยู่ต่อเพื่อไปตามหาผู้ชายคนที่รัก หนุ่มคนนั้นชื่อว่าเลมาเลียน (ตามท้องเรื่อง) นั่งรถเมล์ข้ามคืนข้ามวันตั้งสองสามต่อ เดินข้ามเขาอีกเป็นลูกๆ แล้วในที่สุดก็ได้พบรัก ปักหลัก แต่งงานกับนักรบท้องถิ่น แต่ชีวิตการแต่งงานก็ลุ่ม ๆ ดอน ๆ เราเห็นอยู่ว่ามันเป็นความสัมพันธ์ที่ดูแล้วน่าจะขรุขระตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งมันก็เป็นจริงดังนั้นตามท้องเรื่อง

แต่ประเด็นคือผู้หญิงคนนี้รู้แต่แรกแล้วว่ามันจะไม่ง่าย แต่ก็ใจสู้ และสู้จนถึงที่สุด โดยเฉพาะดาราคนที่แสดงเป็นนางเอกนี้ทำให้เราดูเพลินมาก ไม่สวยมาก แต่หุ่นดี ดูดีเป็นธรรมชาติ แต่งตัวทะมัดทะแมงเหมาะสม มีดวงตาที่มุ่งมั่น บอกว่าจะสู้ก็สู้ พอถึงเวลาจะถอยก็ถอยอย่างเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นพอ ๆ กันเลย

หนังเรื่องดีดูสนุกดี เห็นฉากหลังตระการตาน่าอัศจรรย์ เห็นหญิงผมทองใส่เสื้อสายเดี่ยว สะพายกระเป๋าผ้าเดินหลงทางอยู่กลางตลาด เห็นเธอกอดจูบกับหนุ่มผิวดำมะเมื่อม นุ่งผ้าเตี่ยวและถืออาวุธประจำเผ่าติดกาย แล้วก็เธออีกนั่นแหละที่นั่งก่อกองฟืนชงชาบนพื้นทรายอยู่หน้ากระท่อม มันมีสีสันฉูดฉาดดีไม่หยอก

ผ่านสายตาของเธอ...ในภูมิประเทศอันสวยงาม เราได้เห็นประเพณีที่โหดร้าย เช่นการขลิบอวัยวะเพศของหญิงสาว การที่คนนิ่งดูดายไม่ช่วยคนกำลังจะตายเพราะหาว่าเธอเป็นปิศาจ หลังจากกัดฟันยอมรับและอดทนมาเรื่อย เมื่อเวลาผ่านไป ม่านของความรักที่ปิดบังดวงตาก็เริ่มคลี่ออก ให้เห็นความไม่เหมือน ให้เห็นความระแวง ความกลัว และความไม่สอดคล้อง แต่ก็ยังกัดฟันสู้ จนถึงวันที่ทั้งร่างกายและจิตใจมันบอกเองว่าไม่ไหวแล้ว จึงหนีจากความรักนั้นมา

สีหน้าและแววตาของนางเอกเรื่องนี้ติดตามาก ที่สำคัญ เราก็ยังเห็นด้วยกับเธอนะจ๊ะ ที่แม้จะรู้เป็นลางๆ ว่าความสัมพันธ์บางครั้งมันจะไม่เวิร์ค แต่ก็ให้โอกาสและอดทนปรับตัวจนถึงที่สุด เพราะเมื่อถึงที่สุดแล้ว การลาจากก็คงจะเป็นการจากที่ แน่ชัด ถาวร และหมดสิ้นข้อสงสัยใด ๆ

ไม่เชื่อก็ลองดูหน้าตาของเธอตอนหอบลูกจากสามีมาสิจ๊ะ

ไม่มีความคิดเห็น: