วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2551

What I miss

What I miss..
is someone that I can miss, I can love, I can dream of
tonight.

What I miss..
is the sense of belonging, owning, pairing, to the one
tonight.

What I miss..
is someone to whom I can give, from whom I can take, from whom I can demand, and to whom I can devote
tonight.

tonight.

วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

รอยยิ้ม

รอยยิ้มนั้น
เป็นเหมือนคมหนามนับร้อยพัน
ทิ่มแทงฉัน
และฉัน
อยากทิ่มแทงตัวเองด้วยคมหนามให้มากกว่านี้อีกพันหมื่นแสนเท่า
แต่ฉันก็มีแต่น้ำตา
ที่ไร้ประโยชน์
และใจของฉันมีน้ำตามากยิ่งกว่า
เพราะรอยยิ้มที่เป็นสุข
ที่แหลมคมยิ่งกว่าคมหนามพันหมื่นแสนล้านคม

เดินผ่านความเหงา

ฉันเดินผ่านความเหงา ก้าวข้ามความว่าง
ในวันนี้
วันก่อน
และวันต่อไป

วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

เหงา

I must go down to the sea again,
to the lonely sea and the sky;
and all I ask is a tall ship and a star to steer her by.

วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

Falling

Since the day I fell into your arms
I have never been the same again.

Since the day you let go of me
I have fallen again.

Yes, you cannot force your heart
and so can´t I

So I let myself watching me falling
From grace
And I keep falling, falling, falling

I know that it is no good
I know that I am not happy
But you cannot force your heart and so can´t I
It is a destiny

I would not be able to look up high
I will not be able to be at that height

If only you did not let go of me
Like this..
If only you did not let go of me
This way..

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ใช่ดวงแก้วดาริกาก็หาไม่


คงเพราะรักคือความจริงที่เลื่อนไหล
วันหนึ่งจึงกลายเป็นเพียงเศษขยะ
เป็นความน่ารำคาญ..เป็นภาระ
และเป็นต้นเหตุแห่งความทุกข์

ฉันเคยหลงผิดคิดไปว่า
เป็นแก้วตาที่เธอกอดไว้แนบอก
เป็นแสงสวยที่สาดส่องห้องเรื้อรก
เป็นยอดรัก..เป็นขวัญแห่งชีวิต

แสนเสียดายสง่าราศี
ที่เคยงามเคยดีก็หมดสิ้น
หลับตาบูชารักจนพังภินท์
ทิ้งความงามให้จมดินจนย่อยยับ

จึงจำต้องหยัดอยู่อย่างรวดร้าว
ดาริกาเคยแพรวพราวก็มืดดับ
ที่เคยเห็นเป็นแสงเหลื่อมเลื่อมระยับ
ก็หายวับกลับเป็นแก้วจากหลอดไฟ

ในนามของความรัก..
ทั้งหมดที่แลกไปเพื่อได้มา
จะควรค่าคุ้มราคาก็หาไม่
ได้แต่กล่าวโทษตัวเองซ้ำซากไป
ทำไมไม่รู้จักถนอมตน

ดูเอาเถิดฉันผู้อยู่ตรงหน้า
หลั่งน้ำตาให้เศษซากร่วงหล่น
สิ้นแล้วประกายฤกษ์ประจำตน
หมองหม่นกวาดเก็บเศษแก้วร้าว

ฉันจึงเตือนตัวเองทั้งน้ำตา
ที่คิดว่ามีดาริกาอยู่กลางหาว
และฉันเป็นมงกุฏเพชรประดับดาว
เปล่า...ฉันสำคัญผิดไป

ที่เธอเผลอไผลให้ฉันมา
ใช่ดวงแก้วดาริกาก็หาไม่
อนิจจา..
แม้ขณะกวาดขยะให้พ้นไป
คมเศษแก้วยังบาดใจให้เจ็บร้าว

วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2551

Even if it kills me- I’m going to smile

"I'm going to smile and make you think I'm happy,
I’m going to laugh, so you don’t see me cry,
I’m going to let you go in style,
and even if it kills me- I’m going to smile"