วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2551

สวนที่สวยนั้นต้องการความทมิฬในหัวใจอย่างไม่น่าเชื่อ

"คุณไม่เชื่อเลยเหรอว่าผมจะคิดถึงคุณ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะสุข หรือทุกข์ คุณจะอยู่ในใจผมเสมอ คุณจะเชื่อหรือเปล่าว่า แม้ผมจะไม่โทรหาคุณ แม้เราจะไม่พบกัน แต่ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่คิดถึงกัน" ฉันหัวเราะเสียงดังทีเดียวเมื่อเธอพูดประโยคนี้

"เวลาคุณจุดธูปบอกคนที่ตายไปแล้วว่า คุณนึกถึงเขาอยู่เสมอ คุณเอาอาหารที่เขาชอบใส่ถาดไปวัด เอาพระมาสวด กรวดน้ำ แล้วคุณก็สบายใจว่า คุณได้ทำอะไรบางอย่างแก่คนที่ไม่มีอยู่ในโลกของคุณอีกต่อไป ทั้งหมดนี้ คุณไม่ได้ทำเพื่อคนตาย แต่คุณทำลงไปเพื่อตัวคุณเองที่ยังมีลมหายใจ ทำเพื่อไถ่โทษ ทำเพื่อให้รู้สึกผิดน้อยลง เหมือนกันกับที่คุณบอกฉันว่า "เชื่อเถอะ ว่าผมคิดถึงคุณ" บอกตามตรงว่าฉันไม่เชื่อ ถ้าคิดถึงฉันก็โทรมา ขับรถมาหา อย่าทำแค่จุดธูปแล้วนั่งภาวนาอยู่กับบ้านเพียงจะซื้อความรู้สึกผิดทิ้ง"

...
...
ลมแล้งใบดกหนาจนมองไม่เห็นรูปทรงของลำต้น และฉันก็ลังเลที่จะเล็มใบที่แตกเป็นพุ่มนั้นออกเสียบ้าง ด้วยนึกถึงยามที่มันแร้นแค้น และถูกหนอนกัดกินเสียจนไม่มีโอกาสเติบโต เถาของเงินไหลมาก็ขึ้นคลุมหางนกยูงเสียจนเสียสง่าราศี กระนั้ มันก็ช่วยรักษาความชื้นที่โคนต้น และหางนกยูงที่พิกลพิกาลก็มีอาหารดีขึ้นตามลำดับ

"ไม่ตัดใบทิ้งเสียบ้างจะไม่เห็นดอกนะ"

ฉันตัดใบลมแล้งที่อยู่เรี่ยพื้นทิ้งเสียมากมาย จนเริ่มเห็นทรวดทรงงดงามของมัน ใบที่ถูกตัดทิ้งอาจก่นด่าและน้อยใจ "ทำไมถึงเป็นฉัน ทำไมไม่เป็นอีกใบหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ ฉัน ทำไมไม่เป็นอีกใบหนึ่งที่อยู่ข้างบนฉัน" ใช่บางทีเราก็ตั้งคำถามกับตัวเองอย่างนี้ "ทำไมถึงเป็นฉันที่เธอเลือกจะตัดออกไปจากชีวิต"

เถาเงินไหลมาก็ถูกทึ้งถอนออกไปเกือบครึ่ง เมื่อเวลาผ่านไป และเมื่อหางนกยูงยืนอยู่ได้ด้วยตนเอง เถาเงินไหลมาก็หมดหน้าที่ และสร้างความรำคาญตาเกินกว่าจะปล่อยให้มันเติบโตต่อไปไร้การควบคุม

สวนที่สวยนั้นต้องการความทมิฬในหัวใจอย่างไม่น่าเชื่อ

(ลมแล้งฤดูร้อน ของฮิมิโตะ ณ เกียวโต นิตยสารอิมเมจ ต.ค. ๕๑)

ไม่มีความคิดเห็น: